ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ไม่ควรใช้เพื่อการรักษาหรือควบคุมอาการของผู้ป่วยเป็นลำดับแรก (first-line therapy) ในทุกกรณี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการรับรองตำรับ (unapproved products) การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรจำกัดเฉพาะกรณีที่การรักษาด้วยวิธีมาตรฐานต่างๆแล้วไม่ได้ผลหรือการรักษานั้นอาจเกิดผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยไม่สามารถทนได้ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาควรใช้เพื่อเป็นส่วนเสริมหรือควบรวมกับการรักษาตามมาตรฐานซึ่งผู้สั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์เช่น ยากัญชา น้ำมันกัญชา ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์เจ้าของไข้อย่างใกล้ชิด ผลิตภัณฑ์ต้องปลอดภัยจากสารปนเปื้อนต่างๆอาทิเช่น สารโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา และสารอันตรายอื่นๆ ในกรณีที่ไม่ทราบอัตราส่วนของ THC และ CBD การใช้ unapproved products นั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิผลก่อนนำมาใช้โดยให้เริ่มใช้ปริมาณที่น้อยที่สุดก่อนแล้วจึงค่อยเพิ่มขนาดทีละน้อยโดยให้สังเกตการตอบสนองและผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรพิจารณาถึงประเด็นดังต่อไปนี้
ข้อมูลที่ควรปรากฎในเวชระเบียน
![]() |
ภาพ green-grass-ganja-maria-cannabis-1648353 จาก Pixabay.com |
ก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ควรพิจารณาถึงประเด็นดังต่อไปนี้
- ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย (physician-patient relationship) เป็นพื้นฐานในการให้การยอมรับการรักษาพยาบาล แพทย์ควรมั่นใจว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ป่วยดีเพียงพอก่อนการเสนอใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจทางการแพทย์และบันทึกในเวชระเบียนผู้ป่วย รวมถึงการประเมินสภาพร่างกายและสภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาหรือไม่
- การประเมินผู้ป่วย (patient evaluation) แพทย์ควรบันทึกข้อมูลการตรวจทางการแพทย์ และรวบรวมข้อมูลประวัติที่เกี่ยวข้องกับอาการทางคลินิกของผู้ป่วยอย่างละเอียดเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์
- การแจ้งให้ทราบและตัดสินใจร่วมกัน (informed and shared decision making) การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์กับผู้ป่วยควรเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้รักษาและผู้ป่วย แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงความเสี่ยงและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์กัญชา ความหลากหลายและมาตรฐานการเตรียมผลิตภัณฑ์กัญชาอาจทำให้ผลที่เกิดกับผู้ป่วยมีความแตกต่างกัน กรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง แพทย์ควรแจ้งให้ญาติหรือผู้ดูแลทราบถึงความเสี่ยงและผลที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาซึ่งส่งผลต่อการวางแผนการรักษาและการยินยอมรักษา
- ข้อตกลงการรักษาร่วมกัน (treatment agreement) แพทย์ควรแจ้งวัตถุประสงค์และแผนการรักษาให้ผู้ป่วยทราบตั้งแต่แรก รวมถึงความเหมาะสมในการเลือกวิธีรักษาของแต่ละบุคคล และทบทวนข้อตกลงการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- เงื่อนไขที่เหมาะสม (qualifying condition) ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการด้านประสิทธิผลของการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์อย่างเพียงพอ การตัดสินใจสั่งใช้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ในประเด็นข้อบ่งใช้ ความเหมาะสม และความปลอดภัยของผู้ป่วยแต่ละคน
- การติดตามอย่างต่อเนื่องและปรับแผนการรักษา (ongoing monitoring and adapting the treatment plan) แพทย์ควรประเมินการตอบสนองของการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชากับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสุขภาพในภาพรวมและผลลัพธ์เฉพาะด้านรวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- การให้คำปรึกษาและการส่งต่อ (consultation and referral) ผู้ป่วยที่มีประวัติการใช้สารเสพติดและปัญหาโรคทางจิต จำเป็นต้องได้รับการประเมินและให้การรักษาเป็นกรณีพิเศษ แพทย์ผู้รักษาควรขอคำปรึกษาหรือส่งต่อผู้ป่วยไปพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- การบันทึกเวชระเบียน (medical records) การบันทึกข้อมูลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในการแนะนำการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ การบันทึกในเวชระเบียนควรครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งอาจมีผลทางกฎหมาย ควรลงวันที่และลายเซ็นกำกับไว้ในการบันทึกแต่ละครั้ง
- การมีผลประโยขน์ทับซ้อนของแพทย์ (physician conflicts of interest) แพทย์ผู้สั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ข้อมูลที่ควรปรากฎในเวชระเบียน
- ประวัติผู้ป่วย การทบทวนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
- ผลการรักษาที่ได้รับมาก่อน การประเมินผู้ป่วย การวินิจฉัย และการให้การรักษา รวมถึงผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การให้คำแนะนำผู้ป่วย รวมถึงการทำความเข้าใจกับความเสี่ยง ประโยชน์ที่ได้รับ ผลข้างเคียง และผลการรักษาที่อาจพบได้
- ผลการประเมินผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และการกำกับติดตามผลที่เกิดกับผู้ป่วย
- สำเนาการลงนามในข้อตกลงรักษา รวมถึงคำแนะนำในการดูแลความปลอดภัย และไม่นำผลิตภัณฑ์กัญชาไปให้ผู้อื่น